เหงือกบวม แดง: มีลักษณะบวมเป่ง สีแดงคล้ำกว่าปกติ
มีเลือดออกง่ายขณะแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน: เป็นสัญญาณแรกๆ ของเหงือกอักเสบ
เหงือกนิ่ม หรือรู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัส: อาจมีอาการปวดเล็กน้อยถึงปวดมาก
มีกลิ่นปาก: เกิดจากการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก
มีหนอง: ในกรณีที่รุนแรง อาจมีหนองไหลออกมาจากร่องเหงือก
ฟันโยก: หากปล่อยทิ้งไว้นานๆ โรคเหงือกอาจลุกลามไปทำลายกระดูกรองรับฟัน ทำให้ฟันโยกได้
แนวทาง รักษาเหงือกบวม ให้หายขาด
การ รักษาเหงือกบวม ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ โดยทั่วไปแล้ว การรักษาจะเริ่มต้นจากการดูแลสุขอนามัยในช่องปากที่ดีขึ้น:
รักษาเหงือกอักเสบ อุบลทำความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธี: แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เน้นการแปรงบริเวณคอฟันและร่องเหงือก ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน เพื่อกำจัดเศษอาหารและคราบจุลินทรีย์ที่แปรงเข้าไม่ถึง
ขูดหินปูน: การขูดหินปูนโดยทันตแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการ รักษาเหงือกบวม ที่เกิดจากการสะสมของหินปูน เพราะหินปูนไม่สามารถกำจัดออกได้ด้วยการแปรงฟันเอง การขูดหินปูนจะช่วยขจัดคราบจุลินทรีย์และหินปูนใต้เหงือกที่ทำให้เกิดการอักเสบ
เกลารากฟัน: ในกรณีที่โรคเหงือกลุกลามลงไปถึงรากฟัน ทันตแพทย์อาจพิจารณาการเกลารากฟัน (Root Planing) เพื่อขจัดหินปูนและสารพิษออกจากผิวรากฟัน ทำให้เหงือกสามารถกลับมายึดติดกับฟันได้ดีขึ้น
การรักษาด้วยยา: ทันตแพทย์อาจพิจารณาจ่ายยาปฏิชีวนะ หรือน้ำยาบ้วนปากชนิดพิเศษ เพื่อช่วยควบคุมการติดเชื้อและลดการอักเสบ
การผ่าตัดเหงือก: ในกรณีที่อาการรุนแรงมาก หรือมีการสูญเสียกระดูกรอบๆ ฟัน อาจจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเหงือก เพื่อแก้ไขโครงสร้างเหงือกหรือฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสียหาย
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม: หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพช่องปากที่ดี
ป้องกันดีกว่าแก้: เคล็ดลับเพื่อเหงือกแข็งแรง
