อนุชา บุรชัยศรี โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จากรัฐบาลญี่ปุ่น ผ่านระบบการประชุมทางไกลกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยรับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 1.05 ล้านโดส
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่นที่สนับสนุนวัคซีนโควิด-19 รัฐบาลไทยรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งสำหรับความปรารถนาดีที่ญี่ปุ่นให้มาโดยตลอด สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศและความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทย-ญี่ปุ่นในการร่วมกันแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งการฉีดวัคซีนเป็นกลยุทธ์สำคัญในการลดการแพร่กระจายของโรคระบาด นอกจากนี้ ความช่วยเหลือของรัฐบาลญี่ปุ่นในครั้งนี้ มีส่วนสำคัญในการเพิ่มวัคซีนที่ประเทศไทยจัดหามาเพื่อเพิ่มการเข้าถึงวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนมากขึ้น ลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต และสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง พร้อมยืนยันว่าไทยพร้อมจะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ และวิกฤตครั้งนี้ไปพร้อมกับญี่ปุ่นโดยไม่ทอดทิ้งกัน
นายนาชิดะ คาซึยะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ส่งข้อความจากนายสุกะ โยชิฮิเดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นถึงนายกรัฐมนตรี และกล่าวว่าเขาเคารพรัฐบาลไทยในการจัดการมาตรการโควิดนี้ หวังว่าการฉีดวัคซีนนี้จะช่วยให้ประเทศไทยฉีดวัคซีนได้ วัดได้นุ่มนวลขึ้น นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงความร่วมมือของไทย-ญี่ปุ่นที่มีมาตลอดการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตมาเกือบ 135 ปี ญี่ปุ่นและไทยได้ทำงานร่วมกันผ่านวิกฤตนี้มาตั้งแต่ปี 2554 และหวังว่ามิตรภาพของพวกเขาจะช่วยให้เราผ่านวิกฤตนี้ไปได้ ร่วมกันกลับสู่การเดินทางเพื่อพบกันด้วยรอยยิ้มที่เร็วที่สุด
วัคซีนดังกล่าวได้ลงนามในจดหมายแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2564 และส่งถึงประเทศไทยในตอนเย็นของวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ด้วยวัคซีนของแอสตร้า 1,053,090 โดส Seneca ผลิตในญี่ปุ่นโดย KM Biologics Co., Ltd. และ Daiichi Sankyo Co., Ltd.
pgslot