ผู้เขียน หัวข้อ: GL ขู่ฟ้องอดีตกรรมการสอบเปิดข้อมูลบริษัทลูก - ศาลสิงคโปร์เลื่อนคดี  (อ่าน 43 ครั้ง)

limited

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 78
    • ดูรายละเอียด




Tatsuya Konoshita รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Group Lease Plc (GL) กล่าวว่าบริษัทกำลังเตรียมยื่นฟ้องผู้ที่เกี่ยวข้องในรายงานข่าวที่อ้างว่าอดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบ GL กล่าวว่าได้ยื่นรายงานดังกล่าวแล้ว การสอบสวนของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) พบว่ามีพฤติกรรมที่น่าสงสัยในธุรกรรมของ GLF ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GL ในประเทศกัมพูชา กับ AFP Trading Co. Ltd. (APFT) ซึ่ง GLF ได้โอนเงินจำนวน 1.4 ล้านดอลลาร์ให้กับ APFT ไม่ได้รับคำชี้แจงที่ชัดเจนจากฝ่ายบริหารของ GL และเชื่อว่าอาจมีการส่งเงินที่คล้ายกันไปยัง APFT หรือหน่วยงานอื่นหลายครั้ง
นายทัตสึยะกล่าวว่าปัญหาดังกล่าวทำให้ชื่อเสียงของบริษัทมัวหมอง และเตรียมฟ้องผู้เปิดเผยข้อมูลเท็จดังกล่าว


คดีพันธบัตรมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐยื่นฟ้องโดย J Trust Asia Ptr. Ltd (JTA) ในศาลสิงคโปร์ที่เรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัท ศาลได้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไปอย่างไม่มีกำหนดจากคำตัดสินในเดือนนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ดังนั้นปัญหาดังกล่าวจึงไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท จึงไม่รับผิดชอบค่าเสียหายของคู่กรณีซึ่งต้องรอให้ศาลพิจารณาคดีต่อไป


นายทัตสึยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้บริษัทไม่สามารถส่งงบการเงินประจำปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ หลังจากที่ผู้สอบบัญชีคือบริษัท KP บริษัท เอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญชี จำกัด (KPMG) ไม่สามารถให้ความเห็นในงบการเงินได้ ทำให้การจัดส่งงบประมาณล่าช้า บริษัทฯ กำลังเร่งแก้ไขปัญหาและจะจัดส่งให้โดยเร็วที่สุด


สำหรับแนวโน้มธุรกิจของบริษัทในปี 64 จะยังคงได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อเนื่องในหลายประเทศและหลายประเทศในอาเซียน ส่งผลให้การออกเงินกู้ใหม่ชะลอตัวในประเทศไทย กัมพูชา และเมียนมาร์ ส่วนหนึ่งเนื่องจากบริษัทเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อมากขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลต่อความสามารถในการชำระเงินของลูกค้า อีกทั้งทิศทางหนี้เสีย (NPL) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น บริษัทจึงไม่ได้เร่งขยายธุรกิจ และดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังภายใต้ความไม่แน่นอน


อย่างไรก็ตาม บริษัทเห็นว่าหากมีการเร่งฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ให้กับผู้คนมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธุรกิจฟื้นตัว จากบริษัทมีความมั่นใจมากขึ้น เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงอย่างชัดเจน ทำให้บริษัทกลับมาเร่งรัดออกเครดิต และคนก็เริ่มกลับมาทำงานและใช้ชีวิตตามปกติ สร้างรายได้และมีความสามารถในการชำระหนี้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบของบริษัทต่อการทวงถามหนี้ที่ฟื้นตัวแล้ว และ NPL ที่จะไม่เพิ่มขึ้นอีก

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ slot